วันศุกร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2553
แกงคั่วหัวปลี
วันนี้เข้าไปเดินเล่นในสวนหลังบ้านมาค่ะ ได้ปลีกล้วยน้ำว้าติดมือกลับมาด้วย เคราะห์ดีแท้ๆเชียว กำลังอยากกินพอดี กลับมาถึงบ้านตรงดิ่งเข้าครัวเลย ต้องสำรวจตู้เย็นก่อนค่ะว่าจะทำอะไรกินดี สิ่งแรกที่สะดุดสายตาก่อนใครเพื่อนเลย ก็คือกระปุกเครื่องแกงเผ็ด เอ๊ะ..แต่ฉันยังไม่เคยกินหัวปลีทำอย่างอื่นนอกเหนือไปจาก กินสด ลวกจิ้มน้ำพริก แล้วก็แกงเลียงเลย เอาไงดีล่ะคะ เฮ้อ! ลองก็ลอง เอาเป็นว่า แกงคั่วดีกว่า ใส่สะตอไปด้วย ใส่เนื้ออะไรดีหัวปลีนี่สุกไวแกงกับกุ้งท่าจะดีเนอะ
จากนั้นก็ลงมือเตรียมเครื่องปรุงเลย เครื่องแกงเอาลงครกตำกับกะปิจากบ้านบางเบ้า ของฝากจากเกาะช้างค่ะ โขลก 4-5 ทีเข้ากันดีก็พักไว้ก่อน หัวปลีนางเอกของงานเอามาล้าง ปอกแล้วก้เลือกไว้เฉพาะที่อ่อนๆ หั่นเป็นท่อนลงแช่น้ำมะนาวก่อน จะได้ไม่ดำก่อนเริ่มแกง ถึงคิวกุ้งปอกเสร็จแล้วเอาหัวกับมันติดไว้ด้วยดีกว่า จะได้ออกรสมันกุ้งด้วย ส่วนเพื่อนนางเอกอย่างสะตอผ่าซีกเม็ดแกะตั้งไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ
ได้เวงลาหันหน้าเข้าเตาแล้วค่ะ เอากะทิใส่หม้อตั้งไฟให้เดือด ใส่เครื่องแกง ปล่อยเดือดอีกที ใส่หัวปลี ตามด้วยสะตอกับกุ้ง พอสุกได้ที่เติมน้ำปลานิดน้ำตาลหน่อย ชิมพอได้รสที่ชอบ ปิดไฟยกลงตักใส่ถ้วยเลย ถึงตอนนี้น้ำลายไหลเต็มปากแล้วค่ะ ตักข้าวสวยร้อนๆ ใส่จาน ลงมือจัดการกันดีกว่า
ออกมาหน้าตาอย่างนี้แหละ กินด้วยกันไหมคะ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
น่าตาน่ากินมาเลยค่ะสุ รสชาติคงไม่ต้องพูดถึง คงจะเข้มข้นสมชื่อแกงคั่วแน่นอน
ตอบลบอ่านที่จากคำบรรยายภาพแล้วทำให้ย้อนคิดตัวเอง ไม่ทำกับข้าวเองมานานแค่ไหนแล้วไม่รู้นานจนจำไม่ได้เลยนะ คิดถึงการโขลกน้ำพริกเหมือนกันนะนี่ สงสัยต้องยกครกออกมาโขลกน้ำพริกกินบ้างเสียแล้ว
ตอนยังทำงานประจำสุก็ไม่ได้ทำกับข้าวเลยค่ะ พอออกมาอยู่บ้านเนี่ยเวลาว่างเยอะ แต่สุค่อนข้างขี้เกียจตำพริกแกงค่ะ ชอบซื้อเครื่องแกงมากกว่า นานๆทีถึงจะคึกตำเครื่องเองสักที
ตอบลบน่ากินมากอ่ะ..ว่าแต่ จะทำตามได้กี่เมนูกันเนี่ย ..
ตอบลบค่อยๆ ทำ ค่อยๆกินจ้า
ตอบลบ